IUI เหมาะกับใคร?

IUI เหมาะกับใคร? เข้าใจให้ชัดก่อนตัดสินใจทำ

การวางแผนมีบุตรในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของความรักและความพร้อมทางการเงินอีกต่อไป แต่ยังรวมไปถึงความพร้อมของร่างกายและภาวะเจริญพันธุ์ของทั้งฝ่ายหญิงและชาย หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการทำ IUI หรือ Intrauterine Insemination ซึ่งหลายคู่ประสบความสำเร็จตั้งแต่รอบแรก ในขณะเดียวกัน หลายคนก็ยังลังเลและตั้งคำถามว่า "IUI เหมาะกับใคร?"
บทความนี้จะพาเจาะลึกว่าใครบ้างที่เหมาะกับการทำ IUI รวมถึงกรณีที่ไม่ควรทำ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า




IUI คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยม

IUI (Intrauterine Insemination) เป็นการฉีดน้ำเชื้ออสุจิที่ผ่านการคัดกรองเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง โดยแพทย์จะเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ ช่วงไข่ตก เพื่อให้ตัวอสุจิมีโอกาสปฏิสนธิกับไข่ได้มากขึ้น
เหตุผลที่ IUI ได้รับความนิยมก็คือ:


    • ขั้นตอนไม่ซับซ้อน





    • ราคาทำ IUI ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับ IVF





    • ใช้เวลาน้อย





    • ไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือเจ็บตัวมาก







ใครเหมาะกับการทำ IUI?

แม้ว่า IUI จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มาดูกันว่าใครบ้างที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในการทำ IUI


    1. ฝ่ายหญิงที่ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ


        • ผู้หญิงที่มีปัญหาการตกไข่ เช่น กลุ่มอาการ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ซึ่งร่างกายไม่ตกไข่ทุกเดือน แพทย์จะใช้ยากระตุ้นไข่เพื่อให้ตกไข้ตรงเวลา แล้วจึงฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกในเวลาที่เหมาะสมที่สุด


            • ขนาดไข่ที่เหมาะสม IUI โดยทั่วไปควรอยู่ที่ 18–20 มม. ก่อนฉีดเชื้อ











    1. ฝ่ายชายมีคุณภาพอสุจิต่ำ


        • ในกรณีที่ฝ่ายชายมี อสุจิไม่แข็งแรง เคลื่อนที่ช้า หรือปริมาณน้อย แต่ยังพอมีคุณภาพบ้าง IUI ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้ตัวอสุจิเข้าถึงไข่ได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องเดินทางผ่านช่องคลอดหรือปากมดลูก








    1. ฝ่ายหญิงมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ระดับไม่รุนแรง


        • ในบางกรณีที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เล็กน้อยถึงปานกลาง IUI อาจช่วยได้โดยเฉพาะหากท่อนำไข่ปกติ ไม่อุดตัน










ใครที่ไม่เหมาะในการทำ IUI?

แม้ IUI จะดูเป็นวิธีง่าย แต่ก็มีหลายกรณีที่ไม่ควรเลือกใช้ เช่น:


    1. ท่อนำไข่อุดตัน
      หากท่อนำไข่ทั้งสองข้างอุดตัน อสุจิไม่สามารถเดินทางไปพบไข่ได้ จึงไม่เหมาะกับการทำ IUI และควรพิจารณา IVF แทน





    1. ผู้หญิงอายุเกิน 38 ปี
      อัตราความสำเร็จของ IUI จะลดลงตามอายุ ดังนั้น ผู้หญิงที่อายุเกิน 38 ปี อาจพิจารณาทำ IVF แทน เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จมากขึ้น





    1. ผู้ชายที่ไม่มีอสุจิ (Azoospermia)
      หากฝ่ายชายไม่มีตัวอสุจิเลย อาจต้องพิจารณาใช้เชื้อบริจาคแทน ซึ่งเป็นอีกกรณีที่ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง





    1. ไม่ประสบความสำเร็จในการทำ IUI หลายครั้ง
      หากทำ IUI มาแล้วเกิน 3–6 ครั้งแต่ยังไม่ตั้งครรภ์ ควรหยุดและพิจารณาวิธีอื่น เพราะอาจมีปัจจัยอื่นที่ต้องแก้ไข







การประเมินความพร้อมก่อนทำ IUI

การทำ IUI ไม่ใช่แค่เรื่องของใจที่พร้อม แต่ยังต้องประเมินหลายปัจจัย เช่น:


    • การตรวจฮอร์โมนเพศหญิง: เพื่อดูว่ายังสามารถตกไข่ได้หรือไม่





    • การอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่: เพื่อดูว่าไม่มีสิ่งผิดปกติที่ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน





    • การตรวจอสุจิฝ่ายชาย: วัดปริมาณ ความเคลื่อนไหว และรูปร่างของอสุจิ



>> ถ้าคุณสงสัยว่าควรทำ IUI ที่ไหนดี แนะนำเลือกคลินิกที่มีบริการตรวจประเมินครบถ้วนก่อนเริ่มกระบวนการ เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว




IUI เจ็บไหม? ต้องพักฟื้นไหม?

กระบวนการทำ IUI ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และไม่เจ็บเหมือนการผ่าตัด อาจรู้สึกเพียงแค่ตึงเล็กน้อยขณะฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก จากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น

!! แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 24 ชม. แรก เพื่อให้ตัวอสุจิสามารถฝังตัวได้ดี




อัตราความสำเร็จของ IUI เป็นอย่างไร?

อัตราความสำเร็จของ IUI อยู่ที่ประมาณ 10–15% ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับ:


    • อายุของฝ่ายหญิง





    • ปริมาณและคุณภาพอสุจิ





    • การตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่





    • ขนาดไข่ในรอบนั้น



ยิ่งฝ่ายหญิงอายุน้อย โอกาสสำเร็จจะสูงขึ้น




IUI ดีไหม? คุ้มไหมถ้าเทียบกับการมีลูกแบบธรรมชาติ

IUI อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคู่ แต่สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมา เช่น ปัญหาตกไข่ อสุจิไม่แข็งแรง ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าและปลอดภัย




สรุป: ใครที่ควรพิจารณาทำ IUI อย่างจริงจัง

คุณอาจเหมาะกับ IUI หาก:


    • เป็นหญิงอายุไม่เกิน 35 ปี ที่มีภาวะตกไข่ไม่ปกติ





    • เป็นชายที่มีอสุจิค่อนข้างอ่อนแรงแต่ยังมีอยู่





    • เป็นคู่สมรสที่ไม่มีปัญหาอื่นซับซ้อนมาก



และควรพิจารณาทางเลือกอื่นหาก:


    • อายุเกิน 38 ปี





    • ท่อนำไข่อุดตันทั้งสองข้าง





    • มีปัญหาทางพันธุกรรมหรือสุขภาพขั้นรุนแรง





    • ทำ IUI หลายครั้งแต่ไม่ติด







หากคุณกำลังพิจารณาทำ IUI และยังมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอน อาการหลังทำ หรือการดูแลตัวเอง

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ คลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IUI

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *